mhanoii105

  รายงานผลฟุตบอล UCL 2022/23 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ เรอัล มาดริด เกมที่สนาม Etihad Stadium แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า บุกไปเสมอด้วยสกอร์ 1-1 เกมนี้รับมือด้วยระบบ 3-2-4-1 วาง โรดรี้ กับ จอห์น สโตนส์ คอยคุมจังหวะเกมในแดนกลาง แล้วให้ เควิน เดอ บรอยน์ กับ อิลกาย กุนโดกัน คอยสร้างสรรค์เกมรุก สนับสนุนหน้าเป้าอย่าง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ แล้วมี แจ็ค กรีลิซ กับ แบร์นาโด้ ซิลวา คอยโจมตีทางริมเส้น ฟากฝั่ง เรอัล มาดริด ของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ เกมนี้มาสู้ด้วยระบบ 4-3-3 แดนกลางวาง โทนี่ โครส คอยปั้นเกมร่วมกับ ลูก้า โมดริช และ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ส่วนแนวรุกส่ง คาริม เบนเซม่า ยืนเป็นหน้าเป้า ประสานงานกับ วินิซิอุส จูเนียร์ และ โรดรีโก้ เกมผ่านไป 23 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นฝ่ายขึงเกมบุกกว่า 85% พร้อมโอกาสยิง 7 ครั้ง (เข้ากรอบ 2) แต่ลูกยิงของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยังไม่ผ่านมือ ธิโบต์ คูร์กตัวส์ ทั้งสองครั้ง จนมาถึงจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ได้บอลที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะจ่ายตามช่องให้ แบร์นาโด้ ซิลวา หลุดเข้าไปกดระยะ 10 หลา ส่งบอลผ่านมือ ธีโบต์ คูร์กตัวส์ เป็นประตูให้ “เรือใบ” ขยับออกนำ

  รายงานผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2022/23 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ วูล์ฟแฮมป์ตั้น เกมที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ผ่านไป 32 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครองบอล 52% พร้อมโอกาสยิง 11 ครั้ง แล้วชิงจังหวะออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ บรูโน แฟร์นานเดส ไหลตามช่องให้ อันโทนี่ หลุดไปจ่ายให้ อองโธนีย์ มาร์กซิยาล จบสกอร์ หลังจากนั้น แมนฯยู ยังหาจังหวะเข้าทำได้อย่างต่อเนื่อง อองโธนีย์ มาร์กซิยาล, อันโทนี่, บรูโน่ แฟร์นานเดส และ ราฟาเอล วาราน ยิงรวมกัน 6 ครั้ง (เข้ากรอบ 3) แต่ยังไม่ผ่านมือ ดาเนี่ยล เบนท์ลีย์ ทำให้จบครึ่งแรก “ปีศาจแดง” ออกนำ 1-0 ครึ่งหลังนาที 46 วูล์ฟแฮมป์ตั้น ส่ง ฮวาง ฮี ชาน ลงมาแทน เปโดร เนโต้ รูปเกมดีขึ้น พร้อมโอกาสยิงจาก แม็กซ์ คิลแมน กับ ฮวาง ฮี ชาน แต่ยังตีเสมอไม่ได้ ขณะเดียวกัน อันโทนี่ กับ คริสเตียน อีริคเซ่น ก็มีโอกาสใส่สกอร์ที่ 2 ให้ แมนฯยู เช่นกัน แต่ยังไม่ผ่านบล็อกกองหลัง เข้าสู่นาที 81 แมนฯยู ส่ง อเลฮานโดร การ์นาโช่, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ เฟร็ด ลงมาแทน ราฟาเอล วาราน, คริสเตียน อีริคเซ่น และ เจดอน ซานโช่ แล้วเป็นฝ่ายครองเกมเอาไว้ได้ ก่อนจะมาได้ประตูปิดเกม 2-0 ในนาที 90+3 จากการยิงของ อเ

  รายงานผลฟุตบอล กัลโช เซเรียอา 2022/23 มอนซ่า พบ โรม่า เกมที่สนาม U-Power Stadium ผ่านไป 24 นาที โรม่า ครองบอลน้อยกว่าเล็กน้อย แต่หาจังหวะจบสกอร์ได้อย่างต่อเนื่อง แล้วเป็น สเตฟาน เอล ชาราวี่ ที่ใช้โอกาสยิงหนที่ 3 ของตัวเอง ใส่สกอร์ให้ “หมาป่า” ขยับออกนำ 1-0 จากนั้น มอนซ่า พยายามเร่งเกม พร้อมโอกาสยิงจาก ดานี่ โมต้า กับ ลูก้า คัลดิโรล่า แต่ยังไม่ผ่านมือ รุย ปาทริซิโอ้ ขณะเดียวกัน โรม่า ได้ตอบโต้จาก อิบานเญซ แต่ยังไม่ผ่านมือ มิเชเล่ ดิ เกรกอริโอ้ แต่ก่อนจบครึ่งแรก 6 นาที ลูก้า คัลดิโรล่า ใส่สกอร์ให้ มอนซ่า ตามตีเสมอเป็น 1-1  ครึ่งหลัง มอนซ่า ยังเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า ผ่านไปถึงนาที 60 พวกเขาครองบอลกว่า 68% แต่ได้โอกาสยิงแค่ครั้งเดียวจาก คาร์ลอส อกุสโต้ แต่ยังติดเซฟของ รุย ปาทริซิโอ้ ฟากฝั่ง โรม่า ตอบโต้จากลูกยิงของ สเตฟาน เอล ชาราวี่ กับ ลอเรนโซ่ เปลเลกรีนี่ แต่ยังเบิกลูกที่ 2 ไม่ได้ นาที 61 โรม่า แก้เกมด้วยการส่ง มาดี้ กามาร่า กับ เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า ลงมาทำหน้าที่ แล้วยกระดับการครองบอลขึ้นมาเท่ากัน พร้อมโอกาสยิงจาก อิบานเญซ กับ แทมมี่ อับราฮัม แต่ยังติดเซฟของ มิเชเล่ ดิ เกรกอริโอ้

  รายงานผลฟุตบอล ลาลีก้า 2022 / 23 เกตาเฟ่ พบ เซลต้า บีโก้ เกมที่สนาม Coliseum Alfonso Pérez ผ่านไป 3 นาที เกตาเฟ่ ชิงออกนำเร็ว 1-0 จากจุดดทษของ เอเนส อูนาล จากนั้นเป็น เซลต้า บีโก้ ที่ครองเกมมากกว่า พร้อมโอกาสยิงจาก ฟรังโก้ เซร์บี้, ฟราน เบลทรานด์ และ คาร์เลส เปเรซ แต่ยังตีเสมอไม่ได้ ขณะเดียวกัน เกตาเฟ่ แม้จะเป็นฝ่ายครองบอลน้อยกว่า แต่ได้ตอบโต้จาก คาร์เลส อเลนญ่า, ฆวน อิเกลเซียส, ไฆเม่ มาต้า และ เอเนส อูนาล รวมกัน 5 ครั้ง แต่ยังไม่ได้ลูกที่ 2 แล้วจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-0 ของ เกตาเฟ่ ครึ่งหลังนาที 46 เซลต้า บีโก้ ส่ง แฮร์รีส เซเฟโรวิซ กับ ลูก้า เดอ ลา ตอเร่ ลงมาแทน ยอร์เก้น ลาร์เซ่น กับ ฆาบี้ กาลัน แล้วยังเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า พร้อมโอกาสยิงจาก อูโก้ มาโญ่, ยาโก้ อาสปาส และ กาบรี้ วีก้า แต่ยังเบิกประตูตีเสมอไม่ได้ ขณะเดียวกัน เกตาเฟ่ ได้ตอบโต้จาก คาร์เลส อเลนญ่า, เนมานย่า มัคซิโมวิซ, ไฆเม่ มาต้า และ ฆวน อิเกลเซียส รวมกัน 5 ครั้ง (เข้ากรอบ 1) แต่ยังไม่ผ่านมือ อิบัน บีญาร์ ผ่าน 76 นาที เกตาเฟ่ ยังนำ 1-0 นาที 77 โจเซฟ ไอดู ดดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้ เซลต้า ต้องเหลือ 10 คน จากนั้น เกตาเ

  รายการผลฟุตบอล ลาลีก้า 2022/23 แอธเลติก บิลเบา พบ เซบีญ่า เกมที่สนาม San Mamés แอธเลติก บิลเบา ครองบอลในครึ่งแรก 51% พร้อมโอกาสยิงจาก ยูริ เบร์ชิเซ่, นิโก้ วิลเลี่ยมส์ และ อินญากี้ วิลเลียมส์ รวมกัน 4 ครั้ง แต่ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำ ฟากฝั่ง เซบีญ่า ครึ่งแรกครองบอล 49% พร้อมโอกาสตอบโต้จาก เฟอร์นานโด กับ เอริค ลาเมล่า คนละ 1 ครั้ง แต่ยังเปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้เช่นกัน นั่นทำให้ครึ่งแรกจบด้วยสกอร์ 0-0 ครึ่งหลังนาที 46 เซบีญ่า ส่ง ไบรอั้น กิล ลงมาแทน เอริค ลาเมล่า แต่เกมช่วงแรกเป็นของ แอธฯ บิลเบา พร้อมโอกาสยิงของ นิโก้ วิลเลียมส์ แต่ยังเบิกสกอร์แรกไม่ได้ ผ่านไปถึงนาที 56 เซบีญ่า ต้องแก้เกมอีกครั้ง ปาเป้ เกย์, ปาปู โกเมซ และ กอนซาโล่ มอนเทียล ถูกส่งลงมาแทน ซูโซ่, อิวาน ราคิติซ และ เฆซุส นาบาส แล้วยกระดับการครองบอลขึ้นมาสูสี พร้อมโอกาสลุ้นจาก ไบรอั้น กิล แต่ยังเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้ นาที 81 แอธฯ บิลเบา ส่ง อูไน เบนเซดอร์ กับ ราอูล การ์เซีย ลงมาแทน อินญากี้ วิลเลียมส์ กับ อันเดร เอร์เรร่า แล้วพวกเขาเป็นฝ่ายครองบอลเหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่กลับสร้างโอกาสยิงไม่ได้เลย จนผ่านไปถึงนาที 90+1 ลูคัส โอ